เด็กเรียนร้องเพลง มีประโยชน์และส่งเสริมลูกอย่างไร

ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยหน้าจอและสิ่งรบกวนสมาธิ การเลี้ยงเด็กให้มีความชอบในการร้องเพลงอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สำหรับลูกของคุณ การที่ “เด็กเรียนร้องเพลง” ทำให้ผู้ปกครองสามารถรู้ถึงความสำคัญ และสนับสนุนความสามารถพิเศษด้านการร้องเพลงตั้งแต่เนิ่นๆ บทความนี้จะสำรวจแนวคิดหลักสองประการ: “การเลี้ยงดูให้เด็กมีความรักในการร้องเพลง” และ “การสร้างความมั่นใจและการเพิ่มทักษะ” เราจะพบวิธีการที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กเรียนร้องเพลงและส่งเสริมความสามารถด้านการร้องของลูกคุณอีกด้วย

สารบัญ

รักในการร้องเพลง << คลิ๊ก

สร้างความมั่นใจ (ข้อ1-3) << คลิ๊ก

สร้างความมั่นใจ (ข้อ4-7) << คลิ๊ก

สรุป << คลิ๊ก

รักในการร้องเพลง

ในช่วงปีแรกๆ ของเด็ก การปลูกฝังความรักในการร้องเพลงและการสอนให้เด็กเรียนร้องเพลงเป็นการวางรากฐานที่ดีสำหรับการเดินทางทางดนตรีของพวกเขา การรับรู้และการให้ความสนใจในดนตรีของพวกเขา โดยเฉพาะการร้องเพลง อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อพัฒนาการโดยรวมของพวกเขา

1. ส่งเสริมการร้องเพลงในชีวิตประจำวัน – ตั้งแต่เพลงกล่อมเด็กไปจนถึงเกมร้องเพลง การร้องเพลงควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของลูก ๆ สิ่งนี้ช่วยให้เด็กเรียนร้องเพลงแล้วพวกเขาจะคุ้นเคยกับเสียงของตัวเองและมีความผูกพันธ์กับดนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ การร้องเพลงระหว่างทำกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น เวลาอาบน้ำหรือมื้ออาหาร สามารถทำให้ช่วงเวลาเหล่านี้สนุกสนานและน่าจดจำมากขึ้น

2. ให้พวกเขาได้สัมผัสกับแนวดนตรีที่หลากหลาย – แนะนำให้ลูกรู้จักแนวดนตรีที่หลากหลาย กระตุ้นให้พวกเขาฟังเพลงประเภทต่างๆ ตั้งแต่คลาสสิกไปจนถึงเพลงป๊อป เพื่อขยายขอบเขตทางดนตรีของพวกเขา หรือแม้แต่ดูละครเพลงด้วยกันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาสนใจร้องเพลง

3. ให้การสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญ – สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ลูกของคุณรู้สึกปลอดภัยในการแสดงออกผ่านการร้องเพลง ไม่วิจารณ์หรือตัดสินการแสดงออกของเขาในทางลบ เนื่องจากสิ่งนี้จะบั่นทอนความกระตือรือร้นของพวกเขาลง ให้เสนอความคิดเห็นเชิงบวกและชื่นชมความพยายามของพวกเขาแทน

4. การเล่นไปพร้อมดนตรี – การเล่นเกมดนตรีไปพร้อมกับการทำกิจกรรมต่างๆ เกมง่ายๆ เช่น “เก้าอี้ดนตรี” หรือการเล่นของเล่นกับเครื่องดนตรีสามารถทำให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีทำให้เป็นเรื่องสนุก ของเล่นและแอปที่สอนให้เด็กเรียนร้องเพลงและสอนแนวคิดเกี่ยวกับดนตรีขั้นพื้นฐานก็มีประโยชน์เช่นกัน

5. ร้องเพลงร่วมกับลูก ๆ – การร้องเพลงด้วยกันเป็นครอบครัวอาจเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความผูกพันธ์มากยิ่งขึ้น มันไม่เพียงส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้การ้องเพลง และยังแสดงให้เห็นถึงความรักในดนตรีของคุณอีกด้วย ให้เลือกเพลงที่เหมาะสมกับวัยและร้องตามได้ง่ายเพื่อสร้างประสบการณ์ทางดนตรีที่ดีร่วมกัน

6. แนะนำเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ – สอนให้บุตรหลานของคุณรู้จักเครื่องดนตรีพื้นฐาน เช่น ระนาด เชคเกอร์ หรือคีย์บอร์ด เครื่องดนตรีเหล่านี้สามารถช่วยให้เด็กเรียนร้องเพลง และยังช่วยให้พวกเขาเข้าถึงโลกของดนตรีได้ดีขึ้น

การปลูกฝังความรักในการร้องเพลงในช่วงปีแรกๆ ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างจริงจังมากเกินไปหรือมีความสามารถที่โดดเด่น มันเป็นเรื่องของการส่งเสริมความหลงใหลในดนตรีและการแสดงออก ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีคอยสนับสนุนและมีดนตรีอยู๋ในชีวิตประจำวัน คุณสามารถปูทางอนาคตของลูก ๆ ในฐานะนักร้อง และปลูกฝังให้พวกเขารักดนตรี ให้จำไว้ว่า ประสบการณ์ในช่วงแรกๆ เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการสอนให้ “เด็กเรียนร้องเพลง”

สร้างความมั่นใจ (ข้อ1-3)

แม้ว่าการดูแลเอาใจใส่การร้องเพลงในวัยเด็กเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเพิ่มทักษะด้านการร้องเพลงที่มีแบบแผนสามารถยกระดับพรสวรรค์ของลูกคุณไปได้อีกระดับ ต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถสนับสนุนให้เด็กเรียนร้องเพลงโดยการสร้างความมั่นใจและฝึกฝนทักษะการร้องของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น

1. การเตรียมความพร้อมต่าง ๆ  – ก่อนที่จะให้เด็กเรียนร้องเพลงจริงๆ ให้ประเมินพวกเขาว่า พวกเขากระตือรือร้นที่จะร้องเพลงจริงไหม เขาสนุกกับการแสดงต่อหน้าคนอื่นหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อคุณและลูก โดยให้คำนึงถึงอายุและวุฒิภาวะของพวกเขาด้วย ทั่วไปแล้วบทเรียนที่เป็นทางการจะเหมาะกับเด็กชั้นประถมศึกษาที่มีอายุมากกว่า

2. การหาครูที่เหมาะสม – ค้นหาครูสอนร้องเพลงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับลูกของคุณ ครูควรมีประสบการณ์ในการทำงานกับเด็กๆ มองหาผู้สอนที่อดทน ให้กำลังใจ และสามารถปรับรูปแบบการสอนให้ตรงกับความต้องการของลูกได้ ขอคำแนะนำจากผู้ปกครองคนอื่นๆ พบปะกับผู้ที่อาจเป็นครูเพื่อประเมินแนวทางของพวกเขา

3. การเรียนรู้แบบมีโครงสร้าง – การเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังมีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีแนวทางการสอนที่ชัดเจน ซึ่งบุตรหลานของคุณสามารถพัฒนาเทคนิคต่างๆให้ดีขึ้นได้ เช่นการร้อง การควบคุมลมหายใจ และการแสดงดนตรี บทเรียนช่วยให้บุตรหลานของคุณรู้จักเพลงและสไตล์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งช่วยเสริมทักษะให้เด็กเรียนร้องเพลงของพวกเขา

สร้างความมั่นใจ (ข้อ4-7)

4. การสร้างความมั่นใจ – การได้ไปเรียนนอกจากเด็กเรียนร้องเพลง หรือพัฒนาความสามารถด้านเสียงแล้วนั้น แต่ยังต้องได้รับความมั่นใจในการร้องเพลงอีกด้วย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการเสริมแรงเชิงบวกจากครูมีส่วนช่วยให้พวกเขามั่นใจในตนเอง ตามโอกาสในการแสดง

5. การฝึกฝนและความอดทน – การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูก ๆ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและสนับสนุนพวกเขาด้วย แล้วยังต้องอดทนกับความก้าวหน้าของพวกเขาให้คิดไว้เสมอว่าการปรับปรุงต้องใช้เวลา และความยุ่งยาก

6. การได้รับกำลังใจจากที่บ้าน – นอกจากส่งลูกเรียน การที่เด็กเรียนร้องเพลงได้ดีพ่อแม่ก็ควรที่จะช่วยลูกทบทวนที่บ้านเสมอ ๆ ด้วยอาจจะเป็นการร่วมร้องเพลงกับลูก เสริมสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในบทเรียนโดยฝึกฝนร่วมกัน แสดงความกระตือรือร้นต่อความสำเร็จและส่งพลังงานด้านบวกให้กับความพยายามของลูก

7. การตั้งความคาดหวังที่ไม่เกินจริง – การที่ “เด็กเรียนร้องเพลง” นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับคนอื่น ให้มุ่งเน้นไปที่การเติบโตของแต่ละบุคคลแทน ทำความเข้าใจว่าไม่ใช่เด็กทุกคนจะร้องเพลงอย่างมืออาชีพ และนั่นก็ไม่เป็นไร เป้าหมายคือการรักษาความรักในดนตรีของพวกเขา

การเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังควรที่จะมีสภาพแวดล้อมที่มีแบบแผนชัดเจนและสนับสนุนบุตรหลานของคุณในการพัฒนาทักษะการร้องเพลงและความมั่นใจ ด้วยครูที่เหมาะสมและความมุ่งมั่นในการฝึกฝน ลูกของคุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางด้านการแสดงออกและการเติบโตทางดนตรี เพิ่มความหลงใหลเสียงดนตรี

สรุป

การส่งเสริมลูก ๆ ให้เด็กเรียนร้องเพลง การส่งเสริมให้พวกเขาสนใจดนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ และสร้างสภาพแวดล้อมทางดนตรีที่บ้าน ถือเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตต่อ ๆ ไป เมื่อถึงเวลา การที่เด็กเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะและความมั่นใจได้ ให้คุณจำไว้ว่า การสนับสนุนให้ลูก ๆ รักเสียงดนตรีไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างนักร้องมืออาชีพ แต่เป็นการส่งเสริมความรักที่ลึกซึ้งในดนตรีและการแสดงออก เป็นอีกเส้นทางในการเติบโตอย่างมีความสุขของเขา