โฟนิกส์ (Phonics) ช่วยเด็กอ่านได้อย่างไร ?

โฟนิกส์

โฟนิกส์สามารถช่วยให้เด็ก ๆ เริ่มต้นด้วยการอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างไร วิธีการเรียนรู้การอ่านแบบโฟนิกส์คืออะไร และคุณจะใช้มันในห้องเรียนกับเด็กเล็กได้อย่างไร ?

สารบัญ

โฟนิกส์คืออะไร? << คลิ๊ก

ทำไมมันถึงสำคัญ? << คลิ๊ก

บทบาทของพ่อแม่ << คลิ๊ก

สรุป << คลิ๊ก

SE-ED Learning Center

( เรียนพิเศษ สายไหม )

( เรียนพิเศษ ลำลูกกา / เรียนพิเศษ รังสิต )

สาขา ลำลูกกา และ สายไหม

โฟนิกส์คืออะไร? 

เรามักจะได้ยินนักการศึกษาพูดว่า ‘สิ่งที่เด็กสามารถพูดได้ในวันนี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับสิ่งที่พวกเขาสามารถอ่านและเขียนได้ในอนาคต’ แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวเท่านั้น

หากต้องการอ่านภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จ เด็กๆ ต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนคำที่เห็นในข้อความเป็นเสียง และทำความเข้าใจกับเสียงเหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะเรียนรู้ความสัมพันธ์ของตัวอักษรและเสียง เพราะภาษาอังกฤษใช้ตัวอักษรเพื่อแทนเสียง

คลิ๊กลิ้งด้านล่าง

>เรียนภาษาอังกฤษ รังสิต<

(และ โซนใกล้เคียง)

( ลำลูกกา สายไหม สุขาภิบาล 5)

ทำไมมันถึงสำคัญ?

โฟนิกส์สอนข้อมูลนี้เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีการอ่าน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เสียงของตัวอักษรแต่ละตัว และหากมีการเปลี่ยนแปลงลำดับของตัวอักษรจะเปลี่ยนความหมายของคำด้วย ตัวอย่างเช่น หากเราไม่ให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับตัวอักษร คำอย่างเช่น ‘dog’ และ ‘pat’ อาจถูกอ่านผิดเป็น ‘god’ และ ‘tap’ ตามลำดับ

การศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการด้านการอ่านของเด็กแสดงให้เห็นว่าแนวทางโฟนิกส์มีประสิทธิภาพมากกว่าแนวทางที่เน้นความหมายและคำแปล เช่น ในการพัฒนาทักษะการอ่านของเด็กเล็ก เพื่อช่วยให้เด็กรู้จักคำว่า ‘pig’ ‘big’ และ ‘dig’ ครูอาจใส่คำเหล่านี้ในประโยคต่อไปนี้และกระตุ้นให้เด็กอ่านประโยคเหล่านี้หลายๆ ครั้ง: ‘I can see big pig /pig can dig in the mud/ pig is showering in the mud เด็กจะจำคำว่า ‘big’, ‘pig’ และ ‘dig’ และจะทำให้พวกเขาเข้าใจว่าคำอื่นใดที่มีส่วน ‘-ig’ (เช่น ‘fig’) ก็จะออกเสียงคล้ายกัน

คลิ๊กลิ้งค์ด่านล่าง

>เรียนภาษาอังกฤษ ลำลูกกา<

(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)

( สายไหม รังสิต สุขาภิบาล 5)

พ่อแม่จะช่วยลูกในเรื่องโฟนิกส์ได้อย่างไร?

ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการด้านการอ่านของเด็ก จะช่วยได้มากหากผู้ปกครองนำคำศัพท์ที่ลูกๆ ได้เรียนรู้จากโรงเรียนมาใช้ในบทสนทนาประจำวัน นอกจากนี้ยังช่วยได้หากผู้ปกครองอ่านเรื่องราวในบทเรียนของโรงเรียนกับลูก

ผู้ปกครองสามารถเสริมสร้างความรู้ของบุตรหลานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสียงได้โดยการถามคำถาม เช่น ‘คำนี้ขึ้นต้นด้วยอักษรอะไร? มันทำเสียงอะไร? ตัวอักษรตัวสุดท้ายในคำคืออะไร? มันทำเสียงอะไร’

การหาที่เรียนพิเศษเสริมโฟนิกส์เพื่อเพิ่มอัตราการใช้นอกห้องเรียนมากขึ้น แนะนำให้น้องๆเรียนก่อนขึ้นระดับประถมศึกษา ปีที่ 1 สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1-2 เป็นต้นไป

ความแตกต่างคลิ๊ก

>เรียนภาษาอังกฤษ สายไหม<

(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)

( ลำลูกกา รังสิต สุขาภิบาล 5)

สรุป

หากต้องการอ่านภาษาอังกฤษ และใช้ภาษาอังกฤษได้ดีนั้น ต้องเริ่มจากการฝึกโฟนิกส์ ครูสามารถทำได้โดยกระตุ้นให้เด็กใช้ทักษะการออกเสียงที่ได้เรียนรู้กับคำศัพท์ที่พวกเขาพบในนิทานและเพลงกล่อมเด็ก 

ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการด้านการอ่านของเด็ก สามารถเสริมสร้างความรู้ของบุตรหลานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสียงได้ โดยการถามคำถาม เช่น ‘คำนี้ขึ้นต้นด้วยอักษรอะไร? แนะนำให้น้องๆเริ่มเรียนรู้โฟนิกส์ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1-2 เป็นต้นไป

SE-ED Learning Center สาขาอื่นๆ

จะมีทั้งหมดประมาณ 20 สาขา ทั่วประเทศ

ดูสาขาอื่นๆ