การสนับสนุนให้ลูกเรียนพิเศษเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองหลายคนต้องการทำเพื่อพัฒนาศักยภาพของลูกในด้านต่าง ๆ แต่บางครั้งลูกอาจรู้สึกไม่อยากเรียนพิเศษ ทำให้การบังคับเรียนกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว ด้วยความสนใจในการเล่นเกมหรือดูมือถือนั้นมีมากกว่า ผู้ปกครองจึงต้องหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพและไม่สร้างความเครียดให้กับลูก การสร้างแรงจูงใจและการรวมการเรียนพิเศษเข้ากับกิจวัตรประจำวันสามารถเป็นทางออกที่ดีเพื่อให้ลูกไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้เรียนพิเศษ
สารบัญ
การสร้างแรงจูงใจ << คลิ๊ก
การสร้างวินัย << คลิ๊ก
เรียนรู้ร่วมกัน << คลิ๊ก
สรุป << คลิ๊ก
การสร้างแรงจูงใจให้ลูกด้วยรางวัล
เมื่อ “ลูกไม่อยากเรียนพิเศษ” ผู้ปกครองอาจต้องใช้กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจเพื่อให้ลูกสนใจเรียนพิเศษมากขึ้น การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมอบรางวัลที่ลูกชื่นชอบเป็นแรงจูงใจ เช่น การให้เวลาในการใช้มือถือหรือเล่นเกมตามเวลาที่กำหนดเป็นรางวัล การใช้รางวัลเหล่านี้จะทำให้ลูกมีแรงจูงใจในการเรียนพิเศษและมองว่าการเรียนเป็นเรื่องที่สนุกและมีประโยชน์ การตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริงและไม่ยากจนเกินไป เช่น การเรียนพิเศษวันละ 1 ชั่วโมง สามครั้งต่อสัปดาห์ และเมื่อทำได้ตามเป้าหมาย ลูกจะได้รับรางวัล เช่น เล่นเกมหรือใช้มือถือเป็นเวลา 30 นาที นอกจากจะช่วยสร้างแรงจูงใจแล้ว การอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงประโยชน์ของการเรียนพิเศษในอนาคต เช่น การเตรียมตัวเข้าสอบหรือการพัฒนาทักษะเพิ่มเติม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกเห็นความสำคัญของการเรียนพิเศษมากขึ้น
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ >> แรงจูงใจ
ความแตกต่างคลิ๊ก
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( ลำลูกกา รังสิต สุขาภิบาล 5)
นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรพิจารณาใช้รางวัลที่หลากหลายและไม่เน้นไปที่การใช้มือถือหรือเล่นเกมเพียงอย่างเดียว เช่น การออกไปเที่ยวในวันหยุด หรือการร่วมทำกิจกรรมที่ลูกชอบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้เรียนพิเศษ
การสร้างระบบรางวัลที่ยืดหยุ่นและมีความหลากหลาย เช่น การให้ลูกเลือกว่าจะได้รับรางวัลอะไรหลังจากบรรลุเป้าหมาย เช่น การเลือกเกมที่อยากเล่นหรือการเลือกสถานที่ที่อยากไปเที่ยว จะทำให้ลูกมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายและทำให้การเรียนพิเศษเป็นเรื่องที่มีแรงจูงใจมากขึ้น การให้ลูกมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายและการเลือกของรางวัลยังช่วยเสริมสร้างความรับผิดชอบและการตัดสินใจของลูกในเรื่องการเรียนรู้
การสร้างวินัยและรวมการเรียนพิเศษเข้ากับกิจวัตรประจำวันของลูก
เมื่อ “ลูกไม่อยากเรียนพิเศษ” การสร้างวินัยและการรวมการเรียนพิเศษเข้ากับกิจวัตรประจำวันเป็นวิธีที่ช่วยลดความรู้สึกต่อต้านและทำให้การเรียนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของลูก การสร้างวินัยผ่านการจัดตารางเวลาที่ชัดเจนและการยึดมั่นกับตารางเวลานั้นจะช่วยให้ลูกสามารถปรับตัวกับการเรียนพิเศษได้ดีขึ้น เช่น การกำหนดเวลาสำหรับการเรียนพิเศษในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์
การทำให้การเรียนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันจะช่วยลดความรู้สึกต่อต้านและทำให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและส่งเสริมวินัยในการเรียนรู้ยังช่วยให้ลูกเห็นว่าการเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้
นอกจากนี้ การสอนให้ลูกเห็นว่าการมีวินัยและการจัดการเวลาที่ดีเป็นทักษะสำคัญที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคตจะช่วยให้ลูกมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการเรียนมากขึ้น การจัดตารางเวลาที่ชัดเจนและการยึดมั่นในตารางเวลานั้นช่วยให้ลูกเข้าใจความสำคัญของการเรียนพิเศษและสามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น การสนับสนุนให้ลูกพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ลูกชอบหลังจากเรียนพิเศษเสร็จแล้ว ยังเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการเรียนและการพักผ่อน
การให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สนุกสนานและผ่อนคลายจะช่วยลดความเครียดและทำให้ลูกพร้อมที่จะเรียนรู้ในครั้งต่อไป การสร้างกิจวัตรประจำวันที่มีการเรียนพิเศษและการพักผ่อนอย่างสมดุลจะทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าการเรียนพิเศษเป็นภาระหนักเกินไปและสามารถทำให้การเรียนพิเศษเป็นเรื่องที่สนุกและน่าสนใจมากขึ้น การผสมผสานระหว่างการเรียนพิเศษกับกิจกรรมที่ลูกชอบจะทำให้ลูกมีความสุขและมองว่าการเรียนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและพัฒนาอย่างสมดุล
คลิ๊กลิ้งค์ด่านล่าง
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( สายไหม รังสิต สุขาภิบาล 5)
การทำการบ้านและเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ปกครอง
เมื่อ “ลูกไม่อยากเรียนพิเศษ” การทำการบ้านและเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ปกครองเป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและทำให้การเรียนพิเศษเป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจ การสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับผู้ปกครอง เช่น การช่วยลูกทำการบ้านในบรรยากาศที่เป็นกันเอง การตั้งเวลาร่วมกันทำการบ้านทุกวัน และการสนับสนุนให้ลูกตั้งคำถามและหาคำตอบร่วมกับผู้ปกครอง จะช่วยให้ลูกเห็นว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องที่สนุกและมีความหมาย
การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการเรียนรู้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจในการเรียนพิเศษของลูก เริ่มต้นจากวิชาที่ง่ายๆ และวิชาที่ลูกถนัดก่อน เช่น วิชาศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ แล้วค่อยๆ ปรับเป็นวิชาที่ท้าทายมากขึ้น เช่น คณิตศาสตร์หรือภาษาอังกฤษ การทำกิจกรรมร่วมกันนี้จะไม่เพียงแค่ทำให้ลูกเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าการเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและไม่มีความรู้สึกถูกบังคับ
การเรียนรู้ร่วมกับผู้ปกครองยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักและการสนับสนุน ทำให้ลูกมีความมั่นใจในการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการเรียน การให้กำลังใจและคำชมเชยเมื่อลูกทำได้ดี เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทำให้ลูกเห็นว่าการเรียนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสนุกสนาน นอกจากนี้ การใช้เวลาร่วมกันในการแก้ปัญหาหรือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ยังช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ลูกจะนำไปใช้ในอนาคต
สรุป
เมื่อ “ลูกไม่อยากเรียนพิเศษ” การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวินัย และการเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ปกครองเป็นวิธีที่ช่วยให้การเรียนพิเศษเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสนับสนุนให้ลูกเรียนพิเศษโดยไม่บังคับจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสุขในการเรียนรู้ของลูก และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาสและความสำเร็จ ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะลงมือทำแล้วค่ะ! ลองสมัครคอร์สเรียนสั้นๆ ในวิชาที่ถนัดและง่ายๆ และเริ่มต้นฝึกฝนให้ลูกได้แล้ววันนี้ เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกมีอนาคตที่ดีกว่าโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้เรียนพิเศษ
