ในฐานะผู้ปกครอง การที่ให้พ่อเลี้ยงลูกนั้นมีความสำคัญและมีความหมายอย่างลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้จะเป็นเหมือนสายสัมพันธ์ที่ช่วยหล่อหลอมพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดีให้กับเด็กๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยความมั่นใจและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ในบทความนี้เราจะพูดถึง ความสัมพันธ์ของการที่พ่อเลี้ยงลูกและนำเสนอวิธีที่พ่อจะสามารถแบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าและบทเรียนสำคัญให้กับลูกได้อย่างไรบ้าง
สารบัญ
ความฉลาดทางอารมณ์ << คลิ๊ก
ช่วงเวลาที่มีคุณค่า << คลิ๊ก
ช่วงเวลาที่มีคุณค่า (ต่อ) << คลิ๊ก
สรุป << คลิ๊ก
ความฉลาดทางอารมณ์
ในความสัมพันธ์ที่พ่อเลี้ยงลูก การส่งเสริมให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์นั้น ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเติบโตของลูก โดยความฉลาดทางอารมณ์ หมายถึง ความสามารถที่จะเข้าใจ ใช้ประโยชน์และ สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ในทางที่ดี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของลูกและการตัดสินใจอย่างรอบคอบในอนาคต
1. เปิดใจยอมรับความหลากหลายของอารมณ์ – ในความสัมพันธ์ของการที่พ่อเลี้ยงลูก เพื่อที่จะพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์นั้น พ่อสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการสร้างพื้นที่ที่การแสดงอารมณ์เป็นเรื่องที่ถูกยอมรับและเปิดกว้าง นั่นหมายถึงการปรับเปลี่ยนแนวคิดที่ว่า “ ต้องห้ามแสดงอารมณ์อ่อนแอให้ใครเห็น ” “ ต้องห้ามร้องไห้ ” หรือ “ ความเปราะบางทางอารมณ์ = ความอ่อนแอ ” เมื่อคุณอธิบายแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ลูกเข้าใจ ว่าการร้องไห้หรือการแสดงด้านที่เปราะบางนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือเรื่องที่ต้องอาย ลูกจะสามารถแบ่งปันเรื่องราวของตนเองได้อย่างสบายใจและไม่ปิดบัง การทำเช่นนี้จะทำให้เด็กเด็กเรียนรู้ว่าอารมณ์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ธรรมดาและทุกคนสามารถมีได้ การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์นั้นเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติในครอบครัว
2. พูดคุยอย่างเปิดเผยด้วยการสื่อสารที่เปิดกว้าง – พ่อควรบอกกับลูกเสมอ ว่าพวกเขาสามารถแสดงความรู้สึกของตนได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า ความกลัว หรือความโกรธ การทำเช่นนี้สามารถทำได้ผ่านการสนทนาที่สม่ำเสมอและคำถามง่ายๆ เช่น ” วันนี้เป็นอย่างไร? เล่าให้พ่อฟังได้มั้ย ” หรือ “ วันนี้ที่โรงเรียนสนุกมั้ย เล่าให้พ่อฟังได้รึป่าวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ” การถามคำถามที่ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับความรู้สึกและประสบการณ์ของลูก จะช่วยให้พวกเขาสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกได้อย่างถูกต้องและรู้สึกว่าการแสดงความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นผลดีที่ได้มาจากการที่พ่อเลี้ยงลูกเป็นอย่างมาก
ความแตกต่างคลิ๊ก
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( ลำลูกกา รังสิต สุขาภิบาล 5)
3. การปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ – ความเห็นอกเห็นใจเป็นจุดสำคัญของความฉลาดทางอารมณ์ โดยการที่ให้พ่อเลี้ยงลูกนั้น พ่อสามารถสอนลูกเรื่องนี้ได้ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี เมื่อลูกเห็นพ่อแสดงความอ่อนโยนและความเข้าใจต่อผู้อื่น เขาก็จะเรียนรู้ที่จะทำตาม ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับถึงความยากลำบากของคนอื่นหรือการแสดงความเมตตา ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด การสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ และความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์เหล่านั้นยังช่วยให้ลูกพัฒนาความเห็นอกเห็นใจที่ลึกซึ้งได้
4.การจัดการอารมณ์อย่างมีประสิทธิผล – ลูกๆ มักเรียนรู้จากการสังเกตการจัดการอารมณ์ของพ่อแม่ พ่อสามารถแนะนำลูกในการรับมือกับอารมณ์ในด้านลบอย่างสร้างสรรค์ ได้แก่ การแสดงวิธีการระบายความโกรธ ความหงุดหงิด หรือความผิดหวังอย่างถูกต้อง ไม่ใช่การปล่อยให้อารมณ์ระเบิดออกมา การใช้กิจกรรมเช่น การหายใจลึกๆ การพูดถึงความรู้สึกหรือการเล่าให้ใครสักคนฟัง และการหยุดพักเพื่อให้สงบนิ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับอารมณ์เหล่านี้ ซึ่งแต่ละคนมีวิธีการรับมือที่แตกต่างกัน การที่ให้พ่อเลี้ยงลูก พ่อควรที่จะสังเกตและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมกับลูก เพราะอารมณ์ในด้านลบเกิดขึ้นได้เสมอเป็นเรื่องปกติ
5.มีกิจกรรมมากมายที่สามารถช่วยส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ – การมีส่วนร่วมในกีฬาทีม การทำงานเป็นกลุ่ม หรือแม้กระทั่งโปรเจกต์ครอบครัวง่ายๆ สามารถสอนบทเรียนที่มีค่าเกี่ยวกับการร่วมมือ ความเข้าใจ และความเคารพต่อความรู้สึกของผู้อื่น กิจกรรมเหล่านี้มอบประสบการณ์ปฏิบัติที่ทักษะทางอารมณ์สามารถถูกพัฒนาและขัดเกลาได้
คลิ๊กลิ้งค์ด่านล่าง
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( สายไหม รังสิต สุขาภิบาล 5)
ช่วงเวลาที่มีคุณค่า
ในความสัมพันธ์ของการที่พ่อเลี้ยงลูก ความผูกพันนั้นถักทอด้วยประสบการณ์และความทรงจำที่ได้ใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเล็กๆ หรือเหตุการณ์สำคัญ ความทรงจำนั้นจะกลายเป็นความรู้สึกดีๆที่อยู่ในใจ เป็นการเรียนรู้ และเป็นสิ่งที่พ่อส่งต่อให้ลูก การทำกิจกรรมต่อไปนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้พ่อเลี้ยงลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1. การทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วยกัน – การทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ด้วยการสำรวจธรรมชาติ เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันผ่านกิจกรรมอย่างการเดินป่า ตั้งแคมป์ และตกปลา ลูกจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ทักษะการอยู่รอด ความอดทน ความพากเพียร และความงดงามของโลก การผจญภัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่ท้าทายความสามารถทางร่างกายและจิตใจเท่านั้น นอกจากจะช่วยให้พ่อเลี้ยงลูกได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยส่งเสริมความรู้สึกของความสำเร็จและความมั่นใจ
กิจกรรมกีฬาอย่างการขี่จักรยาน ฟุตบอล หรือเบสบอลยังช่วยสอนการทำงานเป็นทีม มีวินัย และเป็นการออกกำลังที่ดีต่อสุขภาพ ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยเปิดโอกาสให้มีการสนทนา ที่มากขึ้นระหว่างพ่อกับลูก การแบ่งปันความประสบการณ์ ความสนุก และความสุขจากการใช้เวลาด้วยกัน
ช่วงเวลาที่มีคุณค่า (ต่อ)
2. การทำกิจกรรมในบ้านที่แสนอบอุ่น – ในขณะที่กิจกรรมกลางแจ้งมอบความตื่นเต้น กิจกรรมในร่มก็เต็มไปด้วยโอกาสที่จะช่วยให้พ่อเลี้ยงลูกได้ด้วยความสนุกที่แตกต่างกัน การต่อโมเดล สิ่งประดิษฐ์ DIY หรือการทำอาหารร่วมกัน ไม่เพียงช่วยส่งเสริมทักษะการใช้ชีวิต แต่ยังกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ การแก้ไขปัญหา และความอดทน เกมกระดานและปริศนาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับวันที่อากาศไม่เป็นใจ
ฝึกการคิดแบบกลยุทธ์และการทำงานเป็นทีม รวมถึงกระตุ้นความสนุกสนานและการแข่งขันอย่างสุภาพ การอ่านหรือการเล่าเรื่องร่วมกันช่วยบ่มเพาะความรักในการอ่านให้กับลูก ช่วยเสริมสร้างทักษะทางภาษา และเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสนทนาเกี่ยวกับบทเรียนในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะทำให้พ่อเลี้ยงลูกได้ดี
3. ความสำคัญของการใช้เวลาร่วมกัน – การที่พ่อเลี้ยงลูก สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ร่วมกันมีค่าอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่กิจกรรมที่ทำร่วมกัน แต่เป็นคุณภาพของเวลาที่ได้ใช้ไปด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าและไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ มันคือการที่เราให้ความสำคัญของทุกช่วงเวลาและขอบคุณสำหรับทุกๆวันที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เป็นการแสดงถึงคุณค่าของการที่ให้พ่อเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยสร้างรากฐานของความไว้วางใจ ความเคารพ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก
SE-ED Learning Center สาขาอื่นๆ
จะมีทั้งหมดประมาณ 20 สาขา ทั่วประเทศ
สรุป
การให้พ่อเลี้ยงลูก ช่วงเวลาที่พ่อและลูกได้ใช้ร่วมกันนั้นมีค่าเหนือกว่าสมบัติใดๆ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโต การเรียนรู้ และการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์หรือการสร้างความทรงจำสนุกสนานด้วยกัน ประสบการณ์เหล่านี้สิ่งที่สร้างความผูกพันอันยาวนานของการที่ให้พ่อเลี้ยงลูก ในฐานะพ่อ การได้แนะนำสั่งสอนและการได้ใช้เวลาร่วมกับลูก เป็นเหมือนรอยประทับในหัวใจและจิตใจของพวกเขา สร้างมรดกที่จะกำหนดอนาคตของพวกเขาและเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นด้วยความรักและความรู้ที่แบ่งปันระหว่างพ่อกับลูก