เก่งอังกฤษแล้วต้องไม่เก่งคณิต ?

การเห็นลูกมีความสามารถทางภาษาอังกฤษที่โดดเด่นย่อมทำให้ภูมิใจ แต่บางครั้งกลับเกิดความกังวลเมื่อพบว่าลูกยังขาดทักษะในวิชาอื่น เช่น คณิตศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้พวกเขารู้สึก “ไม่เก่งคณิต” และเสียความมั่นใจ การสร้างสมดุลระหว่างทักษะทั้งสองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง แต่กลับส่งเสริมกันในด้านการพัฒนาความคิด การวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา บทความนี้จะช่วยชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนาความสามารถคณิตศาสตร์ของลูก

สารบัญ

ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ไม่ได้ขัดแย้งกัน <<  คลิ๊ก

ใช้ความถนัดของลูกเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์ << คลิ๊ก

พัฒนาความมั่นใจในวิชาที่ลูกไม่ถนัด << คลิ๊ก

สรุป << คลิ๊ก

ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ไม่ได้ขัดแย้งกัน

ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์อาจดูเหมือนเป็นวิชาที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่ความจริงแล้วทั้งสองสามารถพัฒนาควบคู่กันได้โดยไม่มีความขัดแย้ง เนื่องจากสมองของเราทำงานแบบบูรณาการ เกี่ยวไหมว่าเมื่อเก่งภาษาอังกฤษ และต้องไม่เก่งคณิต สมองซีกขวาดี แล้วสมองซีกซ้ายต้องแย่ ? สมองซีกซ้ายเป็นที่มักเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล ตรรกะ และการคำนวณ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของคณิตศาสตร์ ขณะที่สมองซีกขวาเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ การจดจำรูปแบบ และการสื่อสาร ซึ่งสำคัญต่อการเรียนภาษา การฝึกฝนทั้งสองด้านพร้อมกันจึงช่วยให้สมองซีกซ้ายและซีกขวาทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุล

ลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น เด็กนักเรียนที่เก่งทั้งเลขและอังกฤษ มักจะทำข้อสอบไวยกรณ์ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเด็กที่เก่งภาษาอังกฤษแต่ไม่เก่งคณิต ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าสมองสองซีกไม่ทำงานแยกขาดจากกัน แต่จะเชื่อมต่อผ่าน “คอร์ปัส คัลโลซัม” (Corpus Callosum) ซึ่งเป็นเส้นใยประสาทที่ช่วยส่งผ่านข้อมูลระหว่างสองซีก การเรียนคณิตศาสตร์ช่วยพัฒนาการคิดเชิงตรรกะ ขณะที่การเรียนภาษาอังกฤษช่วยเสริมทักษะการเชื่อมโยงข้อมูลและการสื่อสาร เมื่อเด็กฝึกฝนทั้งสองด้านพร้อมกัน กระบวนการคิดและการแก้ปัญหาจะได้รับการพัฒนาทั้งเชิงวิเคราะห์และเชิงสร้างสรรค์

สำหรับเด็กที่เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว การเรียนคณิตศาสตร์เสริม  จะช่วยสร้างความสมดุลในการทำงานของสมองทั้งสองซีก หลักสูตรของเราถูกออกแบบให้สอนคณิตศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและมั่นใจในความสามารถทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าคณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยาก ไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะในวิชาที่สำคัญนี้อย่างมั่นคงและสนุกสนาน

ใช้ความถนัดของลูกเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์

เด็กแต่ละคนมีความถนัดและความสนใจที่แตกต่างกัน ผู้ปกครองสามารถใช้จุดเด่นของลูกเป็นสะพานเชื่อมสู่การพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น หากลูกชอบเล่นกีฬา การคำนวณคะแนนหรือวิเคราะห์สถิติในการแข่งขัน เช่น การคิดเปอร์เซ็นต์การยิงลูกลงห่วงในบาสเกตบอล การนับคะแนนการเล่นบาสเก็ตบอล หรือการคำนวณระยะทางที่วิ่งได้ในเวลาเฉพาะ สามารถเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมความเข้าใจในเรื่องตัวเลขและตรรกะได้

ผู้ปกครองสามารถเน้นการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์เข้ากับกิจกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การทำอาหารซึ่งเด็กจะได้เรียนรู้การตวง วัด และการคำนวณปริมาณส่วนผสม นอกจากนี้ การจัดการเวลาในตารางเรียนหรือการวางแผนกิจกรรมก็ช่วยฝึกการคำนวณและการวางแผนได้เป็นอย่างดี

การใช้กิจกรรมที่น่าสนใจและใกล้ตัวเด็กเพื่อเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับชีวิตประจำวันสามารถสร้างความมั่นใจในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ว่าความสามารถและความสนใจของลูกจะได้รับการพัฒนาอย่างสมดุลในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและสนุกสนาน” เด็กๆจะได้เห็นถึงความสำคัญของคณิตศาสตร์ผ่านมุมมองที่ตนเองถนัดและชอบ

พัฒนาความมั่นใจในวิชาที่ลูกไม่ถนัด

การที่เด็ก ๆ รู้สึกว่า “ไม่เก่งคณิต” นั้นอาจเกิดจากความกลัวหรือประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ ดังนั้นการช่วยพัฒนาความมั่นใจในวิชานี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปกครองสามารถเริ่มต้นด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและไม่เครียด เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกกดดันหรือกลัวในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การพัฒนาความมั่นใจไม่ใช่แค่การสอนเนื้อหา แต่ยังเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมทัศนคติที่ดีในการเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ

วิธีหนึ่งที่ช่วยได้คือการฝึกฝนคณิตศาสตร์ทีละขั้นตอน โดยเริ่มจากการเรียนรู้พื้นฐานและทำให้เด็กเข้าใจว่าความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้ เช่น การให้ลูกทำโจทย์คณิตศาสตร์ง่าย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มความยากขึ้นไปตามลำดับ ทำให้พวกเขาได้รับความรู้สึกสำเร็จและรู้สึกมั่นใจขึ้น

การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ยังหมายถึงการไม่วิจารณ์หรือเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น การให้คำชมในทุกความพยายามแม้จะเป็นแค่การทำโจทย์ได้บางส่วนก็สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มาก เช่นเดียวกับการสร้างกรอบคิดที่ว่าความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และเติบโต

สถาบันของเราช่วยให้เด็ก ๆ ลดความกลัวต่อคณิตศาสตร์ด้วยการสอนที่เป็นมิตรและไม่เครียด ด้วยหลักสูตรที่เหมาะสมกับวัยและเข้าใจง่าย เราช่วยให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ได้ตามลำดับความสามารถและพัฒนาความมั่นใจในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สรุป

การเรียนรู้คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษสามารถเสริมสร้างทักษะการคิดและการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ การที่สมองทั้งสองซีกทำงานร่วมกันช่วยให้เด็ก ๆ สามารถพัฒนาได้ทั้งในด้านการคิดเชิงตรรกะและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้พวกเขาสามารถเข้าใจและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถสื่อสารและใช้ภาษาได้อย่างมั่นใจ การลดความรู้สึก “ไม่เก่งคณิต” และการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรในการเรียนรู้ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาความมั่นใจในวิชาคณิตศาสตร์ และเติบโตไปพร้อมกับการเรียนรู้ในทุกด้านของชีวิต