TikTok ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และเด็กและวัยรุ่นก็ใช้เวลาในการเลื่อนดูแอพมากกว่าที่เคย การวิจัยเบื้องต้นและหลักฐานโดยสังเขป บ่งชี้ว่าสิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองของเยาวชน และทำให้พวกเขามีสมาธิกับกิจกรรมอื่นได้ยากขึ้น
สารบัญ
TikTok Brain ส่งผลต่อเด็กหรือไม่? << คลิ๊ก
TikTok Brain คืออะไร? << คลิ๊ก
พ่อแม่ทำอะไรได้บ้างกับ tictok brain? << คลิ๊ก
สรุป << คลิ๊ก
TikTok Brain ส่งผลต่อเด็กหรือไม่?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลื่อนดู TikTok กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของหลายๆ คน โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น เยาวชนในปัจจุบันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับคลิปสั้น ซึ่งปรับให้เหมาะกับความสนใจเฉพาะของผู้ใช้แต่ละคน
แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ TikTok จะยังมีจำกัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นักการศึกษา และผู้ปกครองได้สังเกตเห็นแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงเมื่อพูดถึงความสามารถของเด็กในการมีสมาธิเป็นระยะเวลานาน ช่วงความสนใจดูเหมือนจะลดลง และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการใช้เวลาหน้าจอมากเกินไป โดยเฉพาะใน TikTok
ช่องข่าวต่างประเทศ KSAT
TikTok Brain คืออะไร?
Tiktok Brain คือ พฤติกรรมสมองของเด็กที่ดูคลิปสั้นมากเกินไป จนทำให้สมาธิสั้น-ความจำสั้น พวกเขาก็จะไม่ชอบทำอะไรที่กินระยะเวลานานเลย เช่น ทำการบ้าน , ตั้งใจเรียน 1 คาบ หรือ จดจ่ออยู่กับอะไรบางอย่างเป็นระยะเวลานาน เป็นต้น ซึ่งนั่นเรียกว่า “สมาธิสั้น” นั่นเอง
ประเด็น คือ ยิ่งเป็นโลกดิจิทัล ยิ่งทำให้เด็กยิ่งรู้สึกว่าโลกแห่งความจริงมันน่าเบื่อ ดร.ไมเคิล มานอส ผู้อำนวยการคลินิก ด้านการเรียนรู้ ที่ โรงพยาบาลเด็กในคลีฟแลนด์ สหรัฐฯ กล่าวกับ WSJ ว่า ถ้าเราไม่สอนให้พวกเขาหัดยับยั้งชั่งใจก็จะส่งผลต่อพัฒนาการของพวกเขา
“ถ้าสมองของเด็กชินกับคลิปสั้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มันจะทำให้สมองของเด็ก ปรับตัวให้เข้ากับกิจกรรมที่ไม่ได้อยู่บนโลกดิจิทัลได้ยาก เพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วพอ ๆ กับคลิปสั้นที่เขาสามารถเปลี่ยนความสนใจหรือคลิปได้ทันที”
คลิ๊กลิ้งค์ด่านล่าง
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( สายไหม รังสิต สุขาภิบาล 5)
พ่อแม่ทำอะไรได้บ้างกับ tictok brain?
Kathryn Smerling นักจิตอายุรเวทจากนิวยอร์ก ปริญญาเอก LCSW กล่าวว่าเธอเห็นผลเสียบางประการของ TikTok ในการทำงานกับเด็กและวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของความสามารถในการให้ความสนใจ
“แม้แต่ในที่ทำงานของผู้ใหญ่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมีสมาธิโดยไม่มองโทรศัพท์”
ผู้ปกครองสามารถปกป้องบุตรหลานของตนจาก “TikTok Brain” ด้วยการพูดคุยกับบุตรหลานอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและกระตุ้นให้พวกเขาทำกิจกรรมอื่นๆที่หลากหลาย เล่นกีฬาและออกกำลังกายอยู่เสมอ ทำให้ลูกของคุณมีชีวิตที่สมดุลและมีเวลาครอบครัวในการทำสิ่งอื่นๆ ร่วมกัน”
- กลยุทธ์ให้ลูกมีสมาธิ < คลิ๊กเพื่ออ่าน
- ตั้งค่า screen time < คลิ๊กสำหรับไอโฟน
- ตั้งค่า screen time < คลิ๊กสำหรับแอนดรอย
ความแตกต่างคลิ๊ก
(และ คณิตศาสตร์ โซนใกล้เคียง)
( ลำลูกกา รังสิต สุขาภิบาล 5)
สรุป
Tiktok Brain ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และเด็กและวัยรุ่นก็ใช้เวลาในการเลื่อนดูแอพมากกว่าที่เคย การวิจัยเบื้องต้นและหลักฐานโดยสังเขป บ่งชี้ว่าสิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมอง และทำให้พวกเขามีสมาธิกับกิจกรรมอื่นได้ยากขึ้น
ผลเสียยังตามมาอีกหลายอย่าง เช่น เกิดอาการสมาธิสั้น ไม่ค่อยนิ่ง ไม่สามารถทำงานหรือจดจ่อกับสิ่งนั้นเป็นเวลานานได้ ผู้ปกครองควรพูดคุยเปิดเผยเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและกระตุ้นให้พวกเขาเติมเต็ม เวลาของพวกเขากับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือหาสิ่งที่เขาชอบให้เขาได้ทำ ออกกำลังกายอยู่เสมอ ทำให้ลูกของคุณมีชีวิตที่สมดุลและมีเวลาครอบครัวมากมายในการทำสิ่งอื่นๆ ร่วมกัน”
SE-ED Learning Center สาขาอื่นๆ
จะมีทั้งหมดประมาณ 20 สาขา ทั่วประเทศ