ปิดเทอมแล้ว ให้ลูกทำอะไรดี ?

สำหรับพ่อแม่ที่มีเด็กอายุ 6-12 ปี ต้องเตรียมตัวสำหรับช่วงปิดเทอมแล้วล่ะกัน ไม่ใช่เพียงแค่การเตรียมเสื้อผ้า อาหาร หรือของใช้ในการเรียน แต่ยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถและประสบการณ์ที่ดีต่อเด็กอีกด้วย เรามีแนวทางแนะนำกิจกรรมสำหรับเด็กในช่วงปิดเทอมไว้ให้พ่อแม่ดูกัน

สารบัญ

ทำอาหาร << คลิ๊ก

ท่องเที่ยว << คลิ๊ก

อ่านหนังสือ << คลิ๊ก

เขียนหนังสือ << คลิ๊ก

สรุป << คลิ๊ก

ในช่วงปิดเทอม รายการกิจกรรมสำหรับเด็กที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก:
หากคุณพ่อและคุณแม่มีเวลาว่างในช่วงวันหยุด สามารถเลือกกิจกรรมให้กับเด็กๆ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และสร้างสมาธิให้กับเด็กๆ ได้ เช่น

1. ทำอาหาร

ปิดเทอมแล้วชวนลูกช่วยทำอาหารที่ชอบ จะช่วยพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานและสร้างความสนุกสนาน ขอเสนอเมนูอาหารอย่างง่ายสำหรับกิจกรรมทำอาหารกับเด็ก ดังนี้

• ไข่เจียว – เป็นเมนูอาหารที่ง่ายและสามารถทำได้ด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ใช้ไข่ไก่ผสมกับเครื่องปรุงรสเล็กน้อยแล้วทอดในกระทะจนสุก สามารถเสริมด้วยผักสดหรือเห็ดที่ชอบได้
• ปีกไก่ทอด – กินง่าย ทำง่าย และเมื่อรับประทานร่วมกับซอสที่ชอบ จะทำให้เด็กชอบอย่างมาก สามารถเตรียมได้ด้วยการผสมแป้งและเครื่องปรุงรสกับปีกไก่แล้วทอดในน้ำมันร้อนจนสุกกรอบ
• สลัดผลไม้ – อาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจและง่ายต่อการเตรียม ใช้ผลไม้ที่ชอบในการผสมพร้อมกับนำไปใส่ในชาม แล้วเติมด้วยน้ำผสมสดหรือซอสผลไม้ที่ชอบ สามารถเสริมด้วยผลไม้แช่แข็งหรือขนมปังที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
• สเต็กปลา – สเต็กปลาเป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูงและง่ายต่อการเตรียม ใช้ปลาที่ชอบเป็นเนื้อสัตว์ประเภทนี้ แล้วนำไปทอดหรือย่างตามชอบ สามารถเสริมด้วยผักผลไม้หรือซอสที่ชอบได้

2. ท่องเที่ยว

ปิดเทอมแล้วสามารถไปเที่ยวสถานที่ใกล้เคียง หรือในเมือง หรือแม้แต่การไปเดินสำรวจพื้นที่ในบ้านก็สามารถช่วยเพิ่มความสนุกสนานและแรงบันดาลใจให้กับเด็กได้

• ฟาร์มต่าง เด็กสามารถเรียนรู้การเลี้ยงสัตว์อาจจะมีกิจกรรมสนุกสนานอื่น ๆ เช่น การขี่ม้า และการเล่นน้ำ
• ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ไร่องุ่น เด็กๆ สามารถชมวิวทิวทัศน์ของไร่และเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูก
• สวนสนุก ให้เด็กๆเล่นเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับวัย
• สวนสัตว์ ที่นี่เด็กสามารถมองเห็นสัตว์ได้จริงๆ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของสัตว์

3. อ่านหนังสือ

ให้อ่านหนังสือที่เข้ากับวัยและสนใจ จะช่วยเพิ่มความรู้ สร้างจิตนาการ และสร้างความสนุกสนานในการเรียนรู้

• เมื่อปิดเทอมแล้วการอ่านหนังสือเนื้อหาที่จะเรียนในเทอมถัดไปเป็นวิธีที่ดีในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนถัดไปโดยจะช่วยให้ลูกมีความเข้าใจในเนื้อหาที่กำลังจะเรียนมากขึ้น โดยอาจจะพิจารณาจากวิชาที่น้องๆชอบ หรือวิชาที่สำคัญเช่น วิชาภาษาอังกฤษ และ คณิตศาสตร์
• การอ่านหนังสือนิทานก่อนนอนเป็นการที่ดีสำหรับเด็ก เพราะจะช่วยส่งเสริมให้พัฒนาการอ่าน การเข้าใจเนื้อหา และการเรียนรู้ภาษาได้ดียิ่งขึ้น การอ่านนิทานก่อนนอนยังเป็นเวลาที่ดีสำหรับครอบครัวที่จะมีเวลาในการแชร์ประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่กับลูก ๆ ด้วยการอ่านนิทานด้วยกันก่อนนอน
• อ่านได้ทั้งภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ ขออนุญาตแนะนำบทความเกี่ยวกับสอนการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก
  >>10 ขั้นตอนในการสอนเด็กให้เรียนรู้การอ่านที่บ้าน 

4. เขียนหนังสือ

ชวนลูกเขียนเรื่องราวต่างๆ เช่น เมื่อปิดเทอมแล้วต้องการไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ? หรือเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการพูดเรื่อง และการแสดงความคิดเห็น ฝึกเรียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขออนุญาตแนะนำบทความเกี่ยวกับการเขียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก

>> ฝึกลูกเขียนภาษาอังกฤษอย่างไรดี

การเลือกกิจกรรมให้กับเด็กๆ นอกเหนือจากความสนุกสนานแล้ว ยังสามารถเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และพัฒนาการเด็กได้อีกด้วย บางครั้งเมื่อลูกปิดเทอมแล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ปิดเทอมด้วย ยังคงต้องไปทำงาน ทำให้ไม่สามารถดูแลลูกได้

พ่อแม่ควรหาแผนการดูแลเด็กในช่วงปิดเทอมอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หาคนดูแลลูก หาโรงเรียนหรือสถาบันเรียนรู้ที่มีโปรแกรม คอร์สเรียนช่วงปิดเทอม ให้ลูกเข้าร่วม เพื่อให้ลูกได้มีความสนุกสนาน และเรียนรู้พื้นฐานต่าง ๆ

อาจจะเน้นวิชาที่สำคัญๆ เช่น วิชาภาษาอังกฤษ และ คณิตศาสตร์ การเลือกเรียนออนไลน์ก็เป็นทางเลือกใหม่ที่ดีทีเดียว แนะนำการเรียนออนไลน์แบบตัวต่อตัวหากกลัวลูกๆไม่สนใจขณะเรียนอาจจะหาวิชาที่น้องๆชอบ และเลือกเป็นเรียนเดี่ยว เพื่อให้คุณครูได้ชวนคุยและพาน้องทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่
>> ขออนุญาตแนะนำสถาบันสอนภาษาอังกฤษ และ คณิตศาสตร์

สรุป

กิจกรรมทั้ง 4 ด้านบนเป็นเพียงตัวอย่างให้นำไปใช้ เมื่อปิดเทอมแล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับ สัดส่วนแต่ละกิจกรรมได้ตามความต้องการ และ ความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว

ยกตัวอย่างเช่น บางบ้านอาจจะแบ่งกิจกรรมเป็น 2 ประเภท คือ กิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการเรียน และ กิจกรรมอื่นๆ โดยอาจจะแบ่งให้เท่าๆ กันอย่างละ 50% เพื่อให้ลูกของเราได้พัฒนาทักษะให้รอบด้าน

การมุ่งเน้นกิจกรรมทางวิชาการอย่างเดียวอาจจะทำให้เด็กเครียดและกดดันเกินไป คุณพ่อคุณแม่ควรค่อยๆปรับสมดุลให้เหมาะสม อย่างไรก็ตามหากไม่ทำกิจกรรมทางวิชาการเลย ก็อาจจะทำให้น้องเรียนไม่ทันเพื่อนๆ หรือเป็นเด็กที่อ่อนวิชาการได้

ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ มีเวลาว่างจากการเรียนหนังสือ และควรนำเอาโอกาสนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางกาย จิตใจ และสังคมของเด็ก และเป็นการเตรียมตัวให้น้องๆสำหรับเทอมหน้าได้อีกด้วย